บทความวิชาการ เรื่อง “ข้อดีของการทำจมูกแบบโอเพ่น”
การทำจมูกแบบโอเพ่น ( Open Rhinoplasty ) เป็นการตั้งชื่อตามวิธีการเปิดแผลเพื่อเสริมแต่งจมูก ต่างกับการทำจมูกแบบปิด ( Closed rhinoplasty ) เพียงแค่เพิ่มรอยผ่าตัดบริเวณด้านหน้าจมูก ( Columellar incision ) แต่นอกเหนือจากรอยแผลที่เพิ่มขึ้น การทำจมูกแบบโอเพ่นมีข้อดีอะไรบ้าง ?
รูปแสดงรอยผ่าตัดบริเวณด้านหน้าจมูก ( Columellar incision ) จากการผ่าตัดแบบโอเพ่น
การผ่าตัดที่คนไทยเราคุ้นเคยก็คือการผ่าตัดเสริมจมูก ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานจมูกก่อน เนื่องจากลักษณะจมูกของคนไทยและคนเอเชีย มีสันจมูกไม่สูง จมูกสั้น ปีกจมูกกว้าง และกระดูกอ่อนปลายจมูกไม่แข็งแรง
หลักการผ่าตัดและเสริมจมูกโดยวิธีปิดและวิธีโอเพ่นแตกต่างกัน
การผ่าตัดแบบปิด ( Closed rhinoplasty ) เน้นการปรับวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก ไม่ว่าจะเป็น ซิลิโคน Gore-Tex หรือ เนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM) ให้รับกับพื้นฐานของจมูกเดิมคือจมูกกระดูก กระดูกอ่อนผนังกั้นโพรงจมูก และ ฮัมพ์ ( Hump ) เปรียบง่ายๆเหมือนการสร้างบ้าน ถ้าพื้นบ้านไม่เรียบ บ้านก็เอียงไม่ตรง เหมือนถ้ากระดูกคด ผนังกันจมูกคด การเหลาซิลิโคนที่เท่ากัน สมมาตรกัน ก็อาจทำให้สันซิลิโคนคดเอียงได้เช่นกัน และการมีฮัมพ์ทำให้ซิลิโคนไม่แนบและบิดเอียงได้ ดังนั้นหลักการแก้ไขปัญหาก็มีสองแบบคือ ถ้าไม่เหลาแท่งซิลิโคนหลบกระดูกที่นูนโป่ง หรือผนังกั้นจมูกที่คด ก็ทำการตอกหรือ ตะไบฮัมพ์หรือกระดูกที่นูนออก
ส่วนปลายจมูกก็เช่นกัน หากเนื้อจมูกเยอะหนาไม่เท่ากันก็อาศัยการปรับแท่งซิลิโคนให้รับกับเนื้อที่ไม่เท่ากัน หรืออาจใช้การรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM) หรือเย็บอินเตอร์โดม ( Interdomal suture ) เข้าช่วย
รูปคนไข้ก่อนและหลังการทำจมูกแบบไม่มีซิลิโคนโดยการผ่าตัดแบบปิด ( Closed rhinoplasty ) เย็บอินเตอร์โดม ( Interdomal suture ) และเติมปลายจมูกให้พุ่งด้วย เนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM)
การทำจมูกแบบโอเพ่น ( Open Rhinoplasty ) หลักการต่างออกไป เน้นการปรับโครงสร้างจมูกโดยการเปิดจมูกออกให้เห็นโครงสร้างภายในจมูกอย่างแท้จริง ทั้งกระดูกจมูก ผนังกั้นโพรงจมูก กระดูกอ่อนจมูก และปลายจมูก สามารถปรับแต่งโครงสร้างและส่วนประกอบต่างๆได้ชัดเจนและแม่นยำ รวมถึงสามารถตัดแต่งเนื้อจมูกส่วนเกินออก กระดูกจมูก และกระดูกอ่อนจมูกส่วนเกินออกได้แม่นยำกว่า
เมื่อหลักการผ่าตัดต่างกัน จึงมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน
ข้อดีของการทำจมูกแบบโอเพ่น ( Open Rhinoplasty )
1. สามารถตะไบหรือตอก ฮัมพ์ ( Humpectomy ) ได้แม่นยำ
รูปแสดงการตอกกระดูกฮัมพ์ ( Humpectomy )
รูปแสดงคนไข้จมูกมีกระดูกฮัมพ์ ก่อนและหลังทำจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) แบบไม่ใช้ซิลิโคน เสริมสันโดยใช้กระดูกอ่อนให้โด่งขึ้น มีการตอกกระดูกฮัมพ์ (Humpectomy) และตะไบฮัมพ์ และปลายจมูกไร้ซิลิโคนจากการใช้กระดูกอ่อนจากผนังกั้นโพรงจมูกให้ปลายพุ่งสวยขึ้น ปลอดภัยจากความเสี่ยงซิลิโคนทะลุที่ปลาย และเพิ่มความเรียวพุ่งของปลายด้วยการเย็บอินเตอร์โดม (Interdomal suture)
2. สามารถปรับกระดูกคดและกระดูกโป่ง ที่เป็นตั้งแต่กำเนิดหรือจากอุบัติเหตุ กระดูกจมูกหัก ( Twisted nose ,Crooked nose deformity, External deviated nose ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตอกกระดูกจมูก ( Osteotomy )และการเย็บปรับแต่งให้ผนังกั้นจมูกตรงขึ้น ( Clocking suture )
รูปแสดงหลักการแก้ไขจมูกคดโดยแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนบน ส่วนกลาง ส่วนล่าง
รูปแสดงคนไข้จมูกคดแต่กำเนิด ก่อนและหลังทำจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) แบบไม่ใช้ซิลิโคน เสริมสันโดยใช้กระดูกอ่อนให้โด่งขึ้น และเพิ่มความเรียวพุ่งของปลาย ด้วยการเย็บอินเตอร์โดม ( Interdomal suture )
3. สามารถตัดแต่งเนื้อปลายจมูกที่ใหญ่ เนื้อมาก จมูกชมพู่ โดยเฉพาะตรงปลายจมูก ( Bulbous Tip ) ให้เรียวขึ้นได้ ทั้งยังใช้ในการผ่าตัดแก้ไขจมูกที่ฉีดสารเติมเต็ม ฉีดฟิวเลอร์ หรือฉีดซิลิโคนเหลว BIOplastic ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ภาพประกอบการแก้ไขคนไข้ฉีด BIOplastic )
รูปแสดงคนไข้เนื้อจมูกปลายเยอะ จมูกชมพู่ จากการฉีด Bioplastic ก่อนและหลังทำจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) ขูดเอา Bioplastic และตัดแต่งเนื้อจมูกที่เยอะออก ทำให้สันเรียว และ ปลายจมูกไม่ตกจากการเย็บอินเตอร์โดม (Interdomal suture) และรองปลายให้พุ่งด้วยเนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM)
4. สามารถตัดแต่งกระดูกอ่อนกลางจมูก และกระดูกอ่อนปลายจมูกให้เรียวขึ้น สำหรับคนที่มีกระดูกอ่อนปลายจมูกใหญ่ ( Cephalic resection of Lower lateral cartilage- LLC ) สามารถเย็บอินเตอร์โดม ( Interdomal transdomal sutures ) ได้แม่นยำ และปรับแต่งส่วนของปลายจมูก ( Tip plasty )ได้ชัดเจนกว่า
รูปแสดงคนไข้เคยเสริมจมูกด้วยซิลิโคนมาผ่าตัดแก้ไข ก่อนและหลังทำจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) เสริมสันโดยการเปลี่ยนแท่งซิลิโคนใหม่ทำสันให้เรียวสูงโด่งขึ้น ปลายจมูกไร้ซิลิโคนจากการใช้กระดูกอ่อนเทียม ( Polycarpolactone mesh- PCL mesh) ร่วมกับกระดูกอ่อนจากผนังกั้นโพรงจมูกให้ปลายพุ่งสวยขึ้นปลอดภัยจากความเสี่ยงซิลิโคนทะลุที่ปลาย และเพิ่มความเรียวพุ่งของปลายจมูกด้วยการเย็บอินเตอร์โดม (Interdomal suture) และรองปลายให้พุ่งแต่ดูละมุนไม่แข็งด้วย เนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM)
5. ในคนไข้บางรายที่มีอาการหายใจไม่ออก คัดจมูก จากผนังกั้นจมูกคด และกระดูกคด หรือมีการตีบของวาล์วด้านในจมูก ( Internal Valve collapse-IVC ) ก็สามารถใช้การผ่าตัดแบบโอเพ่นเพื่อเข้าไปตัดแต่งกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกที่คดและ ทำสเปรดเดอร์ กราฟ ( Spreader graft ) เพื่อแก้ไขการตีบของวาล์วด้านในจมูก ( Internal Valve collapse-IVC ) เรียกได้ว่าได้ทั้งทรงจมูกสวยขึ้น และหายใจสะดวกขึ้นจากการผ่าตัดครั้งเดียว
รูปคนไข้มีการหายใจไม่ออก คัดจมูก จากผนังกั้นจมูกคด กระดูกคด มีการตีบของวาล์วด้านในจมูก ( Internal Valve collapse-IVC ) แต่กำเนิด รูปก่อนและหลังการผ่าตัดแบบโอเพ่น เพื่อตัดแต่งกระดูกอ่อนผนังกั้นจมูกที่คดและ ทำสเปรดเดอร์ กราฟ (Spreader graft) เพื่อแก้ไขการตีบของวาล์วด้านในจมูก (Internal Valve collapse-IVC) ตอกฐานกระดูก ปรับปลายให้โด่งพุ่งด้วยกระดูกอ่อนผนังกั้นโพรงจมูก และเย็บอินเตอร์โดมที่ปลายจมูก ( Interdomal suture )
ข้อเสียของการทำจมูกแบบโอเพ่น ( Open Rhinoplasty )
1. อาจมีแผลผ่าตัดภายนอกที่มองเห็นได้บริเวณด้านหน้าจมูก ( Columellar incision )
2. ระยะเวลาในการบวมมากกว่าและใช้เวลาในการเข้าที่นานกว่าการผ่าตัดแบบปิด ( Closed rhinoplasty )
บทความโดย หมอหวาน ฟอร์จูนคลินิก