เล่าประสบการณ์ “ตัดยกปีก” และวิธีดูแลหลังผ่าตัด (จมูก)

เล่าประสบการณ์ “ตัดยกปีก” และวิธีดูแลหลังผ่าตัด
เคสหมอนิจ ตัดยกปีก

ขอบพระคุณคุณกอ (Kor Rosaluck) สำหรับการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ค่ะ มีประโยชน์มากๆเลยค่า

คำเตือน การตัดยกปีกจะมีแผลด้านนอก ภาพอาจมีรอยแผล มีน้ำเหลือง หน้าสด

[ ประมวลภาพและคำอธิบาย ตั้งแต่วันที่ทำจนถึงวันนี้ค่า พรุ่งนี้ก็จะครบ 2 สัปดาห์แล้วน้า จะว่าไปบวมมากจริงๆแค่ไม่กี่วัน หลังจากนั้นก็ลดลงเรื่อยๆค่า
มีบ้างที่กินอาหารผิดก็จะบวมขึ้นมาอีก 5555 ]

มาเริ่มกันเลยค่า…

• ภาพก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่า คลีนหน้าให้สะอาดที่สุดโดยการเช็ด Cleansing Water ล้างโฟม และตบด้วยสบู่ล้างหน้าที่กลิ่นและสีเหมือนเบตาดีนแต่มีฟองอีก2รอบ เพิ่มการแปรงฟัน และบ้วนปาก2รอบเป็นอันเรียบร้อยค่า

• ภาพหลังออกห้องผ่าตัดสดๆร้อนๆ พี่ผู้ช่วยมอบแอมโมเนียให้ด้วย 5555555 กลัวนี่เป็นลมสุด

• รอคุณหมอทาขี้ผึ้งปฏิชีวนะและปิดแผลด้วยผ้าก๊อตให้ก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้านเฮา| อาหารเย็นคือ น้ำข้าวกล้องผสมธัญญาพืช 2 ขวด ของดอยคำ ใช้ฟันกัดหลอดดูดแล้วค่อยๆซู๊ดดดขึ้นนะคะ ริมฝีปากวันแรกขยับแทบไม่ได้เลย ตึงและชามากกกกกกกกกกคืนแรก นั่งนอนนะคะ นั่งโซฟาตัวแอล ใช้หมอนประกบประมาณ 7 ใบค่า กันล้มตัวนอน 55

• วันแรกหลังแกะผ้าก๊อตค่า (คุณหมอให้แกะตอนประมาณเที่ยง) มีบวมตรงจมูกและแก้มบริเวณข้างๆหน่อยค่า
  | มีอาการตึงและชาที่ปากบนและจมูกมากๆ เราแทบไม่พูดกับใคร ไม่ดูหนังเศร้า หนังตลก กลัวขยับหน้าแล้วแผลปริ 55555
  | อาหารก็ยังเป็นน้ำฟักทองและน้ำเต้าหู้แบบหวานน้อย หรือ ไม่ใส่น้ำตาลเลยค่ะ กินเสร็จกินยา แล้วนอนพักเกือบทั้งวัน เป็นเวลาประมาณ 2 วัน
• วิธีดูแลแผลที่คุณหมอแจ้งคือ ใช้สำลีพันปลายไม้ชุบน้ำเกลือค่อยๆเช็ด คราบเลือด คราบน้ำเหลือง แล้วทาเบตาดีนใหม่ วันละ 1-2 ครั้ง
  พี่ผู้ช่วยก็ย้ำว่า อย่าพยายามให้เลือดกรังหรือน้ำเหลืองเกาะแผลนาน เพราะจะทำให้แผลไม่สวยค่า แต่ก็อย่าถูแรงน้า เดี๋ยวอักเสบอีก
  ช่วงนี้จะมีความทรมานจากความเจ็บปวดบาดแผลมากนะคะ อดทนๆ

• กินอาหารดี แผลแห้งเร็วขึ้นจริงๆค่ะ บวมลดลงเลย กอว่าตัวการแผลอักเสบทั้งหลาย นอกจากความสะอาดแล้ว อาหารจืดๆ อาหารไม่เค็ม ไม่หวานนี่ดีกับเราที่สุดค่าน้ำตาลก็เป็นตัวร้ายนะคะ อาการอักเสบต่างๆ และในภาวะที่เราไม่สามารถล้างหน้าได้ ควรเลี่ยงการทานเนย-ชีส-นมวัวและโยเกิร์ตที่ทำจากนมวัวเช่นกัน เพราะเป็นตัวก่อสิวชั้นดีเลยค่ะ (สำหรับกอ)ช่วงนี้ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำเกลือนะคะ ออกนอกบ้านก็จะใช้หน้ากากแบบกรองฝุ่นละเอียดด้วยค่ะ แพงหน่อยแต่ปลอดภัย เพราะภาคเหนือเราฝุ่นละอองที่ขนาดเล็กมากเยอะมากค่ะ กันไว้ดีที่สุดในยามที่ร่างกายมีบาดแผลเนาะ

• หลังจากนั้นต้องสู้กับการนอย ดูเหมือนหน้าเบี้ยวทุกวัน เพราะยุบไม่เท่ากันสักวัน 55555555ช่วงนี้อาหาร กอเน้นสร้างเนื้อเยื่อให้ด้วยการกินโปรตีนให้ครบ เช่น อกไก่ย่างลอกหนังกับฟักทองนึ่ง
  มื้อละประมาณ 300 กรัมค่ะ รวมๆกัน ไม่กินข้าว (ลดปริมาณน้ำตาลในเลือดทางนึงเพราะเรากินคาร์บคือฟักทองแทนค่ะ ทำไมถึงเป็นฟักทอง เพราะจะทำให้ยุบบวมไวค่ะ)***โปรตีนต่อวันสำหรับแต่ละคนไม่เท่ากันนะคะ คือ ควรรับโปรตีน 0.5-1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมนะคะ กอน้ำหนัก​ ร้อยกว่ากิโลเลยต้องกินเยอะค่า55555ค่าโภชนาการ อกไก่ 100 กรัมให้โปรตีน 23 กรัมค่า

• ต่อมา..หลังจากวันที่ไปกินข้าวนอกบ้าน ประมาณวันที่ 9 แผลก็มีความแฉะอีกครั้ง เนื่องจากกินอาหารทะเล และ ซีอิ้วอีกแล้วค่ะ 😂 เลยต้องหันมากินน้ำเต้าหู้กับน้ำฟักทองเช่นเดิม เอาใจยากจริงๆ

• ภาพหลังตัดไหมค่ะ วันที่ 12 หลังทำ

• วันที่ 13 หลังทำ วันนี้ลองแต่งหน้าดู
  (เครื่องสำอางไม่ค่อยเกาะแนวฝีเย็บเท่าไรค่ะ แต่ยังดูเนียนอยู่นะคะ คงต้องให้เวลาสักพักเนาะ) 😆ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อสรุปการรักษาตัวของกอนะคะ เผื่อท่านใดสนใจนำไปใช้ได้เช่นกันค่า กอก็รวบรวมจากที่อ่านมาในเน็ตบ้าง ไลน์ถามคุณหมอนิจบ้าง (คุณหมอน่ารักมากค่า ไลน์มาถามอาการทุกวัน) ถึงวันนี้แผลเริ่มจะหายแล้ว แต่กอก็ยังพยายามเลี่ยงอาหารสจัดมากอยู่นะคะ เค็มจัด หวานจัด งดส้มตำ ของหมัก ของดอง อาหารทะเล ข้าวเหนียว และ ต้องดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรขึ้นไปค่า 😆

ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจากคุณ Kor Rosaluck

  ส่งรูปปรึกษาคุณหมอนิจได้ทาง
Line : @fortuneclinic
แอดไลน์